ปัจจุบันนี้ การทำงานบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของมนุษย์เป็นอย่างมาก ทุกคนไม่ว่าจะอายุใด เพศใด ก็ต่างต้องใช้งานอินเตอร์เน็ตไร้สายในการทำงานหรือดำเนินชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งจะอยู่ส่วนใดของโลกใบนี้เราก็จะสามารถสื่อสารกัน และทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาแบบไม่ติดขัด ซึ่งแน่นอน สัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงสุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นสัญญาณ 4G ที่ทุกค่าย ทุกเครือข่ายนั้นได้แขา่งขันกันขยายอาณาเขตให้เราได้ใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศแล้วตอนนี้ และถึงเวลาซักทีที่เราจะมีการพัฒนาความเร็วของสัญญาณให้มีความเร็วขึ้น แรงขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีการสื่อสารรุ่นใหม่อย่าง 4.5G หรือ LTE-Advanced ขึ้นมา ที่ล้ำหน้าและรวดเร็วกว่า 4G เดิมถึง 3 เท่า ซึ่งจะเป็นการจะเปลี่ยนประเทศไทยสู่ยุค 4.5G ที่แท้จริงก่อนจะเข้าสู่ยุค 5G ในอนาคต
ล่าสุด ผู้ให้บริการเครือข่ายที่เร็ว แรงที่สุดอย่าง ทรูมูฟ เอช ก็พร้อมแล้วสำหรับการรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารรุ่นใหม่อย่าง 4.5G LTE Advanced (LTE-A) ภายใต้ชื่อ 4.5G Plus ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานโลกที่ใช้งานได้จริงแล้ววันนี้ โดยได้ขยายสัญญาณ 4.5G ครอบคลุมมากที่สุดในไทย มีสถานีฐานประเภท 4T4R จำนวน 7,000 สถานี ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในโลก ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีสถานีฐาน แบบ 4T4R (4 Transmitter 4 Receiver หรือ 4×4 MIMO) ซึ่งเป็นการเพิ่มความสามารถในการรับส่งดาต้าจากเดิมที่ทำได้เพียง 2 ช่องสัญญาณ เพิ่มเป็น 4 ช่องสัญญาณ นั่นหมายความว่าการใช้งาน อินเทอร์เน็ตที่ใช้ไฟล์หนักๆ เช่น การ Multi VDO conference, Facebook Live หรือการดู VDO Streaming ที่ความละเอียดระดับ 4K ก็จะทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น และพัฒนาเทคโนโลยีการรวมคลื่นความถี่ (Carrier Aggregation) ที่จะพัฒนาช่องสัญญาณในการรับส่งข้อมูลให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น ด้วยการนำคลื่นความถี่ที่ให้บริการ LTE มารวมกันเป็นช่องสัญญาณที่ใหญ่มากขึ้น ยิ่งรวมคลื่นได้มาก ก็จะยิ่งทำให้เน็ตมีความเร็วมากขึ้น โดยหากนำคลื่นมารวมกัน 2 คลื่น เราเรียกว่า 2CA หากนำคลื่นมารวมกัน 3 คลื่น เราเรียกว่า 3CA ซึ่งปัจจุบันในประเทศสามารถนำคลื่นมารวมกันได้มากที่สุดอยู่ที่ 3 คลื่น หรือ 3CA นั้นเอง
นอกจากนี้ ทรูมูฟ เอช ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำเครือข่ายตัวจริง ด้วยมาตรฐานระดับโลก คว้ารางวัล “ผู้ให้บริการเครือข่าย LTE เชิงพาณิชย์ที่มีพัฒนาการเด่นชัดที่สุด” (Most Significant Development of a Commercial LTE Network) จากเวทีสุดยอดการประชุมระดับโลก 5G & LTE Asia Awards จัดขึ้นโดย Informa Telecoms & Media ระหว่างวันที่ 26 – 28 กันยายน 2559 ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยรางวัล “ผู้ให้บริการเครือข่าย LTE เชิงพาณิชย์ที่มีพัฒนาการเด่นชัดที่สุด” ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการอิสระประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกเป็นผู้ตัดสินและให้คะแนน โดยพิจารณาจากผู้ให้บริการ LTE เชิงพาณิชย์ที่มีการพัฒนาเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้บริโภค ซึ่งทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการรายเดียวในไทยที่มีพัฒนาการอย่างเด่นชัด และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการ 4G ที่มีคลื่นความถี่มากที่สุด โดยมุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเทคโนโลยี 4G และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ด้วยคุณภาพการให้บริการที่เหนือชั้นยิ่งกว่าในทุกมิติบนเทคโนโลยี 4G รายแรกและรายเดียวในประเทศ และมีเครือข่ายที่ครอบคลุมแล้วกว่าร้อยละ 98 ของประชากรไทย โดยมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน ทั้งเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และความมั่นใจในบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคนไทย
ซึ่งสรุปง่ายๆ สั้นๆ ได้ว่า “ทรูมูฟ เอช สามารถเชื่อมต่อ LTE-A พร้อมกัน 3 คลื่นความถี่แบบ 4×4 MIMO หรือเทคโนโลยีเพิ่มอัตราการรับ และส่งสัญญาณแบบ 4 ช่องทางบน 4G พลัส ก็เปรียบเสมือนมีเลนขับรถบนถนน 3 เลน เมื่อพื้นที่ใดมีคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก ระบบจะสามารถสลับคลื่นความถี่ใช้งานได้ จึงช่วยให้การใช้งานไม่สะดุด”
ทั้งนี้ การใช้งานสัญญาณ 4.5G นั้นจะสมบูรณ์แบบได้ ก็ต่อเมื่อมีอุปกรณ์ที่รองรับได้ด้วย โดยสมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับการใช้งาน LTE-Advanced ใช้งาน Carrier Aggregation ได้ดังนี้
- iPhone 6s / 6s Plus รองรับ 2CA โดยทำความเร็วสูงสุดได้ 300Mbps
- iPhone 7 / 7 Plus รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุดได้ 450Mbps
- HTC One 9 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- HTC 10 มาตรฐาน LTE CAT9 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุดได้ 450Mbps
- Huawei Mate 8 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Huawei Mate 9 เป็น LTE CAT12 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 600Mbps
- Huawei Nova Plus เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Huawei P9 Plus LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- LG G4 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- LG G5 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- LG G5 SE เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- LG V10 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- LG V20 เป็น LTE CAT12 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 600Mbps
- Moto X Style เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Moto G4 Plus เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Moto Z เป็น LTE CAT9 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 450Mbps
- Moto Z Play เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Galaxy S7 / S7 edge เป็น LTE CAT9 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 450Mbps
- Galaxy S6 edge+ เป็น LTE CAT9 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 450Mbps
- Galaxy S6 / S6 edge เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Galaxy Note 5 เป็น LTE CAT9 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 450Mbps
- Galaxy Note 4 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Galaxy A5 (2016) เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Galaxy A7 (2016) เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Galaxy A9 Pro เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Xperia XZ เป็น LTE CAT9 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 450Mbps
- Xperia X Compact เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Xperia X เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Xperia X Performance เป็น LTE CAT9 รองรับ 3CA ทำความเร็วสูงสุด 450Mbps
- Xperia Z5 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Xperia Z5 Compact เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Xperia Z5 Premium เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps
- Axon 7 เป็น LTE CAT6 รองรับ 2CA ทำความเร็วสูงสุด 300Mbps